กระทรวงวิทย์ฯ จับมือภาคเอกชน สร้างต้นแบบโครงรถบัสไฟฟ้าชนิดโมโนคอค เพื่อการผลิตในประเทศ มุ่งสู่การใช้
- กรุงเทพฯ
- 24 ม.ค. 2561
- ยาว 1 นาที
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับบริษัท ไทยยานยนต์ไฟฟ้า จำกัด และสมาคมเครื่องจักรกลไทย จัดงานแถลงข่าว “ความสำเร็จการพัฒนาสร้างโครงรถบัสไฟฟ้าชนิดโมโนคอคเพื่อการผลิตภายในประเทศ ภายใต้ “โครงการสร้างเครื่องจักรต้นแบบด้วยกระบวนการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า” ณ ลานอเนกประสงค์ บริษัท ไทยเซ็นทรัลเมคคานิคส์ จำกัด อ. พระประแดง จ. สมุทรปราการ

รศ.นพ. สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อธิบายถึงนโยบายการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมยายนต์ไฟฟ้าว่า ปัจจุบันโลกอยู่ในยุคที่เปลี่ยนผ่านของยานยนต์ที่ใช้พลังงานน้ำมันไปสู่ระบบ Hybrid และกำลังเข้าสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EV) แต่ยังติดปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของแบตเตอรี่และการประจุไฟฟ้าที่ต้องใช้เวลานาน หากสามารถแก้ไขจุดอ่อนตรงนี้ได้ ยานยนต์ไฟฟ้าจะถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ หลายหน่วยงานมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการนำยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นพลังงานที่สะอาดและประหยัดมาใช้กับระบบขนส่งสาธารณะ เช่น กระทรวงพลังงานและกระทรวงคมนาคม เป็นต้น แต่ประเทศไทยยังคงนำเข้ารถบัสไฟฟ้าจากต่างประเทศมาใช้จำนวนมาก เนื่องจากขาดแคลนเทคโนโลยีการผลิตชิ้นส่วนและการออกแบบ Mass Production รวมถึงไม่มีแบบการเขียนชิ้นส่วนประกอบ จึงไม่สามารถผลิตเองในเชิงพาณิชย์ได้
กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เห็นถึงความสำคัญในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย จึงได้สนับสนุนผู้ประกอบการไทย ในการสร้างต้นแบบรถบัสไฟฟ้าชนิดโมโนคอคเพื่อการผลิตในประเทศ โดยใช้กระบวนการวิศวกรรมย้อนรอย หรือที่เรียกกันว่า Reverse Engineering หรือการสร้างเครื่องจักรต้นแบบขึ้นมาใหม่ โดยการนำชิ้นงานของต่างประเทศมาทำการวิเคราะห์ฟังก์ชันการทำงานในแต่ละส่วนแล้วพัฒนาต่อยอดให้สอดคล้องกับสภาพการใช้งานจริงในประเทศไทย จนเกิดการสร้างรถโดยสารไฟฟ้า (EV - City Bus) ขนาดความยาว 10.5 เมตร ขึ้น โดยเฟสแรกจะเป็นการพัฒนาโครงสร้างรถบัสไฟฟ้าให้มีรูปทรงและคุณลักษณะที่เหมาะสมต่อสภาพการจราจรในประเทศไทย เช่น การวางแบตเตอรี่ไว้ตำแหน่งที่สูงเพื่อรองรับสภาพถนนที่มีน้ำท่วมขัง และออกแบบให้สามารถอดเปลี่ยนได้ง่าย ซึ่งในอนาคตเมื่อมีการประกอบโครงสร้างของรถบัสไฟฟ้าชนิดโมโนคอคแบบสมบูรณ์แล้ว รถบัสไฟฟ้าดังกล่าวจะใช้เวลาในการประจุไฟฟ้าเพียง 20 นาที ก็สามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อการประจุไฟฟ้าเต็ม 1 ครั้ง โดยให้ความเร็วสูงสุดที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความเร็วที่เหมาะสมในการขับขี่ยานพาหนะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
Comments